เงินแค่นี้ไม่สะเทือน แต่เสียความรู้สึก!
บ้านเก่า ‘บัวขาว’ รวยพันล้าน-ดังทั่วโลก แม้เจอข่าวอดีตภรรยาเล่นงาน
อย่างที่เรารู้ๆกันดีว่า กำปั้นมหาชน คนนี้เป็นถึงนักมวยระดับเงิuล้ๅน แต่ความสุขของเขาคือการกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด
อย่างที่แฟนๆเห็นกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีชีวิตที่หรูหราอย่างที่หลายคนคิด บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยขวัญใจมหาชน
ได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารสาธารณะ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
เพื่อนำความรู้ที่เรียนมาพัฒนาค่ายมวยและรีสอร์ตของตัวเอง โดยที่เขาลงไปทำนาด้วยตัวเอง ด้วยความที่พ่อและแม่เป็นชาวนา
เขาเลยขอทำอาชีพนี้ต่อไป ก่อนหน้านี้ บัวขาวเล่าให้ฟังว่า ชีวิตวัยเด็กของเขาเติบโต และได้รู้จักกับกีฬามวยไทยครั้งแรกที่บ้านเกิดจังหวัดสุรินทร์
ในตอนนั้นมวยไทยเป็นกีฬายอดฮิตของเด็ก ๆ ในชนบท เมื่อไรก็ตามที่มีงานวัดก็มักจะมีการจัดมวยด้วยทุกครั้ง เด็กชายบัวขาวในวัย 8 ขวบ
จึงมีโอกาสได้ดูการเล่นมวยบนเวทีครั้งแรกในงานวัด และประทับใจจนอยากเห็นตัวเองขึ้นไปอยู่บนเวทีอย่างนั้นบ้างสักครั้ง
และเห็นคนดูเขาเชียร์กันสนุกมาก ผมเห็นนักมวยรุ่นพี่คนหนึ่งเขาเก่ง และเด่นมาก ผมดูเขาทำแล้วก็อยากเป็นเหมือนเขา
อยากขึ้นไปบนเวที อยากให้คนเชียร์เราบ้าง หลังจากนั้นก็เลยไปขอซ้อมกับรุ่นพี่คนนี้ และสนใจมวยไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
พอมีโอกาสได้ขึ้นเวทีมวยแถวบ้านเลยอยากลองดูสักครั้ง สังเวียนแรกที่ผมได้จึงเริ่มขึ้นตอนแปดขวบ ความรู้สึกตอนที่ได้ขึ้นเวทีครั้งแรกคือมันรู้สึกดีมาก
รู้สึกชอบเลย และรู้สึกคุ้มค่ามากที่เราพยายามมาอยู่ตรงนี้ ตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอกกว่าวันนั้นจะแพ้หรือชนะ
ตอนที่ได้ประกบคู่มันคือความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่มากและได้เป็นฝ่ายชนะด้วย นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ
และ เก๋ ภรรยานอกสมรสบัวขาว นำหลักฐานยื่นฟ้oงบัวขาว เพื่อให้ “บัวขาว บัญชาเมฆ” รับรอง เด็กหญิงพิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ “น้องมีตังค์” หรือ “น้องข้าวหอม” อายุ 5 ปี
ให้รับรองเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมๅย พร้อมทั้งเรียกร้องค่ๅเลี้ยงดูบุตร หลังจาก “บัวขาว” พยายามตีตัวออกห่าง ไม่สนใจครอบครัว
และต้องเลือกเส้นทางใหม่ให้ชีวิต ด้วยความสนิทกับคุณแม่มากที่สุด คุณแม่ของเขาได้ให้คำแนะนำว่าให้เลือกสิ่งที่เขาถนัดที่สุดในตอนนั้น
เพราะเชื่อว่าเขาจะทำได้ดีแน่ๆ จึงเป็นจุดเปลี่ยนให้เขาเลือกจริงจังกับการเป็นนักมวยอๅชีพมากขึ้น และเดินทางเข้าอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 15